ในภาพวาดที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ ดวงตาของผู้ชมจะถูกดึงดูดทันทีโดยดอกเบญจมาศที่มีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นการระเบิดของสีที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาและความเป็นตัวตน ช่อดอกไม้พลุ่งพล่านออกมาจากแจกันสีน้ำเงินที่หรูหราซึ่งประดับประดาด้วยลวดลายที่ละเอียดอ่อน ซึ่งสะท้อนความมีชีวิตชีวาของดอกไม้ ผู้สร้างใช้การปัดด้วยแปรงที่มีชีวิตชีวาและรูปทรงแบบวอลเลยี ทำให้เกิดความรู้สึกของการเคลื่อนไหวเหมือนกับดอกไม้กำลังเต้นรำในสายลมอันอ่อนนุ่ม เทคนิคนี้ทำให้คุณภาพทางอารมณ์ของชิ้นงานสัมผัสได้และเปลี่ยนงานที่เป็นธรรมดาให้กลายเป็นการเฉลิมฉลองความงามตามธรรมชาติ โทนสีต่างๆ—แดงที่ร้อนแรง สีเหลืองที่แยงตา และสีขาวที่อ่อนนุ่ม—ผสมผสานกันเพื่อสร้างจานสีที่กลมกลืนกัน ส่งเสียงร้องเพลงแห่งความสุขและความมีชีวิตชีวา เชื่อมโยงผู้ชมกับความรู้สึกอบอุ่นและมีความสุข

แสงลอดผ่านดอกไม้ที่ดูนุ่มนวล สร้างเงาแบบพาสเทลที่เป็นประกายและเพิ่มความน่าสนใจให้กับชิ้นงานที่สดใสนี้ ความเชี่ยวชาญของโมเน่ปรากฏชัดเมื่อตัวเขาจับความหยาบคายของดอกไม้ในแบบที่สามารถหวนคิดถึงลักษณ์และยังแผ่กระจายไปยังองค์ประกอบของการทรงตัวที่เกิดขึ้นอีกด้วย ด้านประวัติศาสตร์ งานชิ้นนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ศิลปินเริ่มหลงใหลในแสงและสีซึ่งทำให้เขาสามารถปฏิวัติการปะทะกันด้วยเส้นทางที่เสียงผสมผสานเกือบทุกอย่าง ประกอบกับแรงกระตุ้นที่ดึงดูดอย่างสีสันสดใสซึ่งจะชักชวนเราหยุดคิดคำนึงถึงเรื่องคุณค่าที่ยั่งยืน เอาเสียงสูงโน้ตมาใส่ในทุกสิ่งในท้ายที่สุดเราไม่ได้เห็นแค่แจกันดอกไม้ แต่ถูกห้อมล้อมด้วยเรื่องยุคสมัยอย่างแรงกระตุ้นแห่งชีวิต ความทรงจำ และควมรู้สึกที่เต็มไปด้วยความห้วงแห่งประสิทธิ์ศิลปะ