
การชื่นชมศิลปะ
ภาพวาดนี้เผยให้เห็นภาพที่เงียบสงบ ชวนเราให้เข้ามาในฉากชนบทที่สงบสุขซึ่งธรรมชาติและชีวิตของมนุษย์ประสานเข้าด้วยกันอย่างมีความสุข ในฉากข้างหน้า ภาพลักษณ์ที่สำคัญของโรงสีที่ใช้พลังน้ำตั้งตระหง่านอย่างภูมิใจ วงล้อไม้ทำงานหมุนช้าๆ ขณะที่มันใช้พลังจากน้ำที่ไหลในลำธารอย่างสวยงาม เสียงน้ำที่ไหลอย่างนุ่มนวลและมีชีวิตชีวานั้นสร้างบรรยากาศอันชื่นบานโดยแทรกเสียงของเป็ดที่ลอยตัวอย่างสบายๆ ไว้เป็นระยะๆ เมื่อมองจากโรงสีกลับ เราเห็นผนังหินที่น่ารักโดนเวลาบอกเล่าพร้อมกับคราบของมอสสีเขียวที่ออกแบบมาอย่างสวยงามและบ่งบอกถึงอายุและเรื่องราวที่มันอาจมีอยู่
ศิลปินใช้น้ำหนักสีสันที่สดใสและมีสีสันเต่านอยู่ที่คุณค่าของโลก ธรรมชาติเป็นสีที่เย้ายวนใจจากน้ำและพลูองสวรรค์ตั้งอยู่เบื้องบน อาจกล่าวได้ว่า การสร้างเสียงอันพร้อมอยู่ของทัศนียภาพทั้งหมดจะสร้างบรรยาอุหว่างที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสงบ ระเบียบทรงตัวของภูมิทัศน์นั้นนำสายตาไปข้างในนใจ โดยพาเรามาเข้าไปในทุ่งหญ้าสีเขียวที่กว้างไกลพร้อมกับม้าที่กำลังเล็มหญ้าและต้นไม้ที่เปล่งเสียงที่อ่อนโยน คล้ายกลิ่นอายของอากาศในช่วงบ่ายแดดได้เตะทุกคนด้วยความอบอุ่นและเฉียดความรู้สึกถึงความกระปรี้กระเปร่าอย่างอ่อนนุ่มที่จะดึงดูดพวกเราที่ร้ายเหตุเพราะแต่ความคิดถึงวันที่เก่าๆ ประกายแดดเต้นบริสุทธิ์และกรุ่นรอเสียงบรรเลงเชิญชวนในภาพนี้ก็ดีว่า มิใช่แค่จะถ่ายทอดอารมณ์ของผู้คนที่อาศัยในชนบท แต่ว่ายังทำให้มาถึงในเรื่องที่จริงๆ เริ่มเชื่อกายสถาณการกลายของโลกนี้ที่มีการเสนอระบบสังคมหมายถึงความรักในงานฝีมือและให้ชีวิตให้กับชุมชนและธรรมชาติเเป็นสิ่งล้ำค่า